วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

VARK Model นั้นสำคัญไฉน


                                                                                                          
                                                                                                 สุริยา เผือกพันธ์ แปลและเรียบเรียง


คำสำคัญ : รูปแบบการเรียนรู้ (Learning Styles), รูปแบบการเรียนรู้ผ่านการมองเห็น (Visual Learning Style),  รูปแบบการเรียนรู้ผ่านการได้ยิน (Auditory Learning Style),  รูปแบบการเรียนรู้ผ่านการอ่าน/เขียน (Read/Write Learning Style), รูปแบบการเรียนรู้ผ่านการเคลื่อนไหว (Kinesthetic Learning Style), การเรียนรู้ของแต่ละบุคคล (Individual’s Learning
                เรามีรูปแบบและทฤษฎีเกี่ยวกับการสอนจำนวนมาก แต่ที่จะเน้นในที่นี้เป็นระบบเกี่ยวกับการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล (Individual’s Learning)  ที่รู้กันในนาม VARK อันประกอบด้วย Visual. Auditory. Read/Write, and
 Kinesthetic (hand-on)

ครูต้องรู้รูปแบบการเรียนรู้ที่นักเรียนถนัด
                เพื่อให้เรารู้ว่านักเรียนใช้กระบวนการ เรียนรู้และจดจำข้อมูลได้ดีที่สุดด้วยการดู การฟัง การอ่าน/เขียนหรือการเคลื่อนไหว/สัมผัส นักเรียนแต่ละคนชอบรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน รูปแบบหนึ่งใดไม่ได้ดีกว่ารูปแบบอื่น ๆ และมิได้หมายความว่าเด็กชอบรูปแบบหนึ่งแล้ว รูปแบบอื่นจะไม่สามารถเรียนรู้ได้ มันเป็นการง่ายที่จะทำให้การใช้กระบวนการ การเรียนรู้และการจดจำข้อมูลเป็นวิธีการที่ดีที่สุด นักเรียนอาจกลายเป็นผู้เรียนที่ดี ถ้าพวกเขารู้รูปแบบการเรียนรู้และใช้กำหนดกลยุทธ์การเรียนรู้ได้ตามลำดับ



รูปแบบการเรียนรู้ผ่านการมองเห็น (Visual Learning Style)
                ผู้เรียนต้องการมองเห็นภาษากายและการแสดงสีหน้าของครู (Teacher’s body language and facial expression) เพื่อความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียนอย่างเต็มที่ ส่วนใหญ่พวกเขาชอบนั่งหน้าห้องเรียน แต่ละคนจะคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เห็นอยู่รูปภาพและอาจเรียนเข้าใจดีที่สุดจากการดูสิ่งเหล่านี้ เช่น แผนภาพ (Diagrams) รูปภาพในตำราเรียน (Illustrated textbook) แผ่นใส (Overhead transparencies) วีดิโอ (Video) ภาพพลิก (Flipcharts) การใช้กระดานไวท์บอร์ด (Whiteboards) ใบความรู้ (Handout) ระหว่างการเรียนหรือการอภิปรายในชั้นเรียน บ่อยครั้งที่ผู้เรียนชอบที่จะจดบันทึกรายละเอียดและซึมทรัพย์ข้อมูลข่าวสาร
                กลยุทธ์การเรียนรู้ (Learning Strategies)
                -ใช้สีทาทับข้อความที่สำคัญในแบบเรียน เช่น คำสำคัญ
                -ทำบัตรคำข้อความที่สำคัญ เช่น การย่อข้อความ
                -จำกัดจำนวนคำ/ข้อมูล เพื่อให้ใช้จินตนาการ
                -เปลี่ยนคำหรือข้อความให้เป็นสัญญลักษณ์ แผนภาพและหรือรูปภาพ
                -สร้างภาพเพื่อเตือนความจำ
                -เปลี่ยนรูปภาพให้เป็นคำ
                -ทำรหัสสี, ขีดเส้นใต้, และหรือทาสีทับข้อความสำคัญ
                -สร้างแผนภูมิ แผนภาพ แผนที่ความคิด



รูปแบบการเรียนรู้ผ่านการได้ยิน (Auditory Learning Style)
                นักเรียนแต่ละคนจะเรียนได้ดีผ่านบทเรียนที่ใช้เสียง อภิปราย พูดคุยและฟังในเรื่องที่ผู้อื่นพูด ผู้เรียนด้วยการได้ฟังจะตีความหมายของการพูดผ่านการฟังน้ำเสียง จังหวะและความเร็ว บ่อยครั้งที่ผู้เรียนได้ประโยชน์จากการอ่านตำราและบันทึกจากการอ่านและฟังเสียงที่ดัง แล้วบันทึกสาระสำคัญจากตำรา
                กลยุทธ์การเรียนรู้ (Learning Strategies)
                -ทำงานกลุ่มหรือเรียนกับเพื่อนร่วมงาน เช่น การอภิปราย การฟัง การพูดคุย
                -การอ่านและทบทวนแบบฝึกหัดจากแบบเรียนก่อนเข้าชั้นเรียน
                -อ่านบันทึกและแบบเรียนให้เสียงดัง
                -ท่องข้อมูลที่สำคัญให้จำได้
                -บันทึกข้อความ ข้อมูลสำคัญ ฟังบรรยาย ฟังและบันทึกเป็นประจำ
                -ใช้หนังสือและเทป
                -ศัพท์เทคนิคและภาษาคณิตศาตร์
                                -พูดปัญหาให้เสียงดัง ๆ
                                -คิดอย่างเป็นกระบวนการและลำดับขั้นเป็นขั้น ๆ เขียนและอ่านให้เสียงดัง
                                -อภิปรายคำถามและปัญหาเป็นกลุ่มหรือเรียนกับเพื่อนสนิท


รูปแบบการเรียนรู้ผ่านการอ่านและเขียน (Read/Write Learning Style)
                แต่ละบุคคลที่ชอบรูปแบบนี้ จะแสดงออกให้เห็นในด้านการใช้คำ โดยเฉพาะการใช้ตำราเป็นฐานในการสร้างงาน เช่น การอ่านการเขียนในทุก ๆ รูปแบบ คนที่ชอบรูปแบบนี้ชอบที่จะแสดงออกโดยผ่านงานต่าง ๆ เช่น พาเวอร์พอยต์ อินเตอร์เน็ต อ่านรายการ พจนานุกรา ปทานานุกรมและคำต่าง ๆ
                กลยุทธ์การเรียนรู้ (Learning Strategies)
                -การเรียบเรียงใหม่
                -อ่าน/ทบทวนทุกวัน
                -การเรียบเรียงความคิดและหลักการใหม่โดยใช้คำอื่น ๆ
                -สร้างแผนภาพ รูปภาพไปเป็นประโยค
                -เปลี่ยนการกระทำ แผนภาพ หรืออื่น ๆ ไปเป็นคำ
                -เขียนตอบข้อสอบ
                -ทำข้อสอบแบบเลือกตอบ
                -เขียนความเรียง มีการเริ่มต้นและจบลง
                -เขียนเป็นรายการต่าง ๆ
                -เรียบเรียงคำเพื่อจัดลำให้ดับหรือจุดเน้น


รูปแบบการเรียนรู้ผ่านการเคลื่อนไหว (Kinesthetic  Learning Style)
                ผู้ที่เรียนด้วยรูปแบบนี้จะเรียนรู้ได้ดีเมื่อได้ใช้มือ บางครั้ง มันเป็นความลำบากสำหรับบางคนที่จะให้นั่งเรียนเป็นเวลานาน ๆ ผู้เรียนแบบนี้สามารถหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่เขาต้องการคือ การเคลื่อนไหวและการทำกิจกรรม
                กลยุทธ์การเรียนรู้ (Learning Strategies)
                -ในครั้งแรกให้อ่านเอกสารแบบคร่าว ๆ เพื่อความเข้าใจหัวเรื่องและความคิดหลัก
                -เคลื่อนที่ไปรอบ ๆ อ่านและเรียนด้วยเสียงที่ดัง เดินและอ่าน ทำงานในตำแหน่งที่เป็นยืนอยู่
                -บันทึกและฟังพวกเขาในขณะที่ออกกำลังกาย
                -หยุดพักบ่อย ๆ
                -ฟังเพลงขณะเรียน
                -นั่งเรียนหน้าห้องเรียน
                -ทำงานในชั้นเรียน ใช้บันทึก เขียนจุดเน้น ร่างแผนภูมิ
                -เรียนรู้โดยใช้มือทำงานหรือสัมผัส เมื่อมีความเป็นไปได้
               -ใช้โมเดล  ทำการทดลองพิเศษ เยี่ยมพิพิธภัณฑ์ หรือร่วมงานคอนเสริ์ต เพื่อนำไปใช้เป็นวัสดุสร้างหลักสูตร
               -สร้างบัตรคำเพื่อใช้เป็นกระบวนการ
                                -ทำรหัส สีเหมือนข้อมูล
                                -จำกัดข้อมูล ด้วยการทำคำสำคัญ และสัญญาลักษณ์
                                -ทำตามกฎ สับเปลี่ยนและทำซ้ำ ๆ
                -พิมพ์บันทึกจากสิ่งที่เรียนในตำราและในชั้นเรียน
                -ใช้โปรแกรมสเปรสชีท ตาราง แผนภูมิและรวบรวมวัสดุ
                        …………………………………………………………………………….      
http://www.vark-learn.com[Copyright Version 7.0 (2006) held by Neil D. Fleming, Christchurch, New Zealand and Charles C. Bonwell, Springfield,MO]







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น