วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

รายงานการวิจัยชั้นเรียน ผลการพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ โดยใช้แบบฝึกการอ่านและเขียน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนบำรุงวิทยา




                                                                      ครูภาวินี สิมาลัย รายงาน

1. ชื่อเรื่อง ผลการพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ โดยใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที 4/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนบำรุงวิทยา

                2ผู้วิจัย นางสาวภาวินี สิมาลัย

                3. สภาพการปฏิบัติงานและปัญหาการวิจัย
                      การดำเนินการโครงการพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ ปีการศึกษา 254จัดทำขึ้นเพื่อให้โรงเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ของโรงเรียนบำรุงวิทยา อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์  ปีการศึกษา 254โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะขจัดปัญหานักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกโดยเฉพาะนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่  จะต้องอ่านหนังสือออกและเขียนได้  100 %  ภายในเดือนกุมภาพันธ์  พุทธศักราช 255ก่อนที่จะให้จบการศึกษา
                จากการสำรวจผมการเรียนของนักเรียนที่ผ่านมา พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ ซึ่งน่าจะมีสาเหตุหนึ่งมาจากการอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ของนักเรียน โรงเรียนจึงได้ทำการสำรวจคัดกรองนักเรียนที่อ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 ซึ่งพบว่า โดยรวมนักเรียนอ่านไม่ออกร้อยละ 43.11 จากปัญหาและสาเหตุที่กล่าว โรงเรียนจึงได้จัดทำโครงการพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ขึ้น โดยใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา บุรีรัมย์ เขต1

4.คำถามการวิจัย
                     การใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนส่งผลต่อการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนหรือไม่ อย่างไร
               
5.วัตถุประสงค์
                   เพื่อศึกษาผลการใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนที่มีต่อการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557

                6.ประโยชน์ที่จะได้รับ
                                1)  นักเรียนอ่านได้ร้อยละ 71% ขึ้นไป 
                                2)  ครูได้แบบฝึกการอ่านและการเขียนที่มีประสิทธิภาพ




                7.วิธีดำเนินการวิจัย
                การวางแผน
                                       1) เป้าหมาย ทดลองใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนเป็นเวลา 1 ภาคเรียน
2) กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนบำรุงวิทยา จำนวน 41 คน
                                      3) กิจกรรม/การปฏิบัติ 
                                            คัดกรองนักเรียนที่มีปัญหาการอ่าน
                                           วิเคราะห์เพื่อคัดแยกนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่มตามระดับสภาพปัญหาการอ่านของนักเรียน
                                                พัฒนานักเรียนกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้สื่อ/นวัตกรรมอย่างหลากหลาย
                                                 เก็บรวบรวมข้อมูลการพัฒนาก่อนดำเนินการระหว่างดำเนินการ และหลังสิ้นสุดโครงการ 
                                                วิเคราะห์ สรุปและรายงานผลการดำเนินการพัฒนา
                                                 เขียนรายงานเผยแพร่ และนำเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้
                  การจัดหาสื่อ/นวัตกรรม มาใช้พัฒนานักเรียนแต่ละกลุ่มที่คัดแยกตามระดับสภาพปัญหาการอ่านของนักเรียนนั้น โรงเรียนบำรุงวิทยาเปิดโอกาสครูและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถผลิตสื่อ/นวัตกรรมมาใช้พัฒนานักเรียนแต่ละกลุ่มได้อย่างหลากหลาย และได้จัดทำสื่อ/นวัตกรรมพัฒนานักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ไว้ สำหรับครูที่ไม่ได้จัดทำสื่อ/นวัตกรรมดังกล่าว ก็สามารถนำไปใช้สอนหรือพัฒนานักเรียนกลุ่มเป้าหมายของโรงเรียนได้ 
                โรงเรียนบำรุงวิทยาได้จัดทำสื่อ/นวัตกรรมสำหรับพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ ตามระดับสภาพปัญหาการอ่านของนักเรียนโดยยึดหลักการสอนจากง่ายไปหายาก  5 ขั้นตอน คือ
                                ขั้นตอนที่ 1  อ่านเขียนพยัญชนะและสระให้ถูก
                                ขั้นตอนที่  2  นำพยัญชนะและสระมาผูกให้เป็นคำ
                                ขั้นตอนที่  3  สอนการสะกดคำและแจกลูก
                                ขั้นตอนที่  4  สอนการผันเสียงให้ถูกตามวรรณยุกต์
                                ขั้นตอนที่  5  เรียนให้สนุกด้วยคำยากช่วยเสริม
              จากกระบวนการเรียนรู้ดังกล่าว  ได้นำมาจัดทำเป็นชุดการสอน สำหรับใช้สอนนักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้  3  ชุด คือ
1. ชุดแบบฝึกการอ่านและสะกดคำพื้นฐาน ประกอบด้วย แบบฝึกการอ่านและเขียนสะกดคำพื้นฐาน
แบบฝึกหัดการอ่านและเขียนสะกดคำพื้นฐาน  และแผนการสอนโดยใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนสะกดคำพื้นฐาน มีขั้นตอนการสอน ดังนี้
                            ขั้นที่ 1   ทบทวนการอ่านพยัญชนะ สระ การแบ่งพยัญชนะไทยออกเป็น 3 หมู่ คือ อักษรกลาง  อักษรสูง และอักษรต่ำ เพื่อให้นักเรียนจดจำให้ได้ก่อนนำไปสู่การสอนอ่านประสมคำ  การอ่านสะกดคำ และการผันวรรณยุกต์
                                ขั้นที่ 2  สอนให้นักเรียนรู้จักอ่านประสมคำ ระหว่างพยัญชนะไทย  44 ตัว  และสระไทย 32 เสียง
                                ขั้นที่ 3  สอนให้นักเรียนอ่านสะกดคำพื้นฐาน ที่สะกดคำตรงตามมาตราตัวสะกดของไทย คือ แม่กก แม่กง แม่กด แม่กบ  แม่กน แม่กม แม่เกย และ แม่เกอว
2. ชุดแบบฝึกการอ่านและผันวรรณยุกต์  ประกอบด้วย แบบฝึกการอ่านและผันวรรณยุกต์อักษรกลาง  แบบฝึกการอ่านและผันวรรณยุกต์อักษรสูง  และแบบฝึกการอ่านและผันวรรณยุกต์อักษรต่ำ
3.   ชุดแบบฝึกการอ่านและเขียนคำยาก ประกอบด้วย การอ่านและเขียนคำที่สะกดไม่ตรงตามตัวสะกด การอ่านและเขียนคำที่ไม่ประวิสรรชนีย์ การอ่านและเขียนคำที่มีตัวการันต์ การอ่านและเขียนคำที่มีอักษรนำ การอ่านและเขียนคำควบกล้ำ                                                                           
การปฏิบัติ ลงมือสอนตามแนวทางการพัฒนาที่กำหนดไว้ในเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2557


สังเกตการสอน
                1. เครื่องมือวิจัย ได้แก่
1.1 แบบสอบถามคุณภาพการปฏิบัติงานโครงการนักเรียนอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้                                    
1.2 แบบทดสอบ สำหรับคัดแยกนักเรียนออกเป็นกลุ่มตามระดับสภาพปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้                                                               
1.3 แบบฝึกหัดการอ่านและสะกดคำพื้นฐาน แบบฝึกหัดการอ่านและผันวรรณยุกต์ แบบฝึกหัดการอ่านและเขียนคำยาก
                            2. การรวบรวมข้อมูล
                                   รวบรวมข้อมูลหลังจากมีการสอนเรียบร้อยแล้ว
                 3. การวิเคราะห์ข้อมูล
                                3.1 แบบสอบถาม วิเคราะห์โดยหาค่าเฉลี่ยและร้อยละ
                                3.2 แบบทดสอบ วิเคราะห์โดยหาค่าเฉลี่ยและร้อยละ
                                3.3 แบบฝึกหัด วิเคราะห์โดยหาค่าเฉลี่ยและร้อยละ

ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
                1.ข้อมูลนักเรียนอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ก่อนเข้าร่วมโครงการ

                 ตาราง 1 แสดงข้อมูลนักเรียนที่อ่านไม่ออกก่อนเข้าร่วมโครงการ

สรุปข้อมูลนักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่ได้ก่อนเข้าโครงการ
โรงเรียนบำรุงวิทยา
ที่
ชั้น
จำนวนนักเรียนทั้งหมด
จำนวนนักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่ได้
คิดเป็นร้อยละ
1
ประถมศึกษาปีที่4/2
41
6
14.63

                จากตาราง 1 สรุปข้อมูลนักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่ได้ก่อนเข้าโครงการ พบว่า นักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่ได้มีจำนวน 6 คนคิดเป็นค่าร้อยละ 14.63

ตาราง 2 แสดงคุณภาพการปฏิบัติงานโครงการนักเรียนอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ ครั้งที่ 1


ชั้น

จำนวนนักเรียน
ระดับความสำเร็จการเรียนการสอน ครั้งที่ 1

หมายเหตุ
ไม่ประสบผลสำเร็จ
ประสบผลสำเร็จน้อย
ประสบผลสำเร็จปานกลาง
ประสบผลสำเร็จมาก
ป.4/2
41
1
-
2
3
ร้อยละ
100
2.43
-
4.87
7.31

    จากตาราง 2 คุณภาพการปฏิบัติงานโครงการนักเรียนอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ ครั้งที่ 1 พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ประสบผลสำเร็จจากการใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนที่มีต่อการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ โดยประสบผลสำเร็จมาก เป็นจำนวน  3 คน คิดเป็นร้อยละ 7.31




            ตาราง 3 แสดงคุณภาพการปฏิบัติงานโครงการนักเรียนอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ ครั้งที่ 2


ชั้น

จำนวนนักเรียน
ระดับความสำเร็จการเรียนการสอน ครั้งที่ 2

หมายเหตุ
ไม่ประสบผลสำเร็จ
ประสบผลสำเร็จน้อย
ประสบผลสำเร็จปานกลาง
ประสบผลสำเร็จมาก
ป.4/2
41
1
-
-
2
รวม
41
1
-
-
2
ร้อยละ
100
2.43
-
-
4.87


     จากตาราง 3  คุณภาพการปฏิบัติงานโครงการนักเรียนอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ ครั้งที่ 2 พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ประสบผลสำเร็จจากการใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนที่มีต่อการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ โดยประสบผลสำเร็จมาก เป็นจำนวน 2  คน คิดเป็นร้อยละ 4.87

ตาราง 4  แสดงข้อมูลเปรียบเทียบนักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ก่อนเข้าร่วมโครงการและหลังเข้าร่วมโครงการของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557


สรุปข้อมูลนักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่ได้ ก่อนเข้าร่วมโครงการและหลังเข้าโครงการ

ที่

ชั้น
จำนวนนักเรียนทั้งหมด
จำนวนนักเรียนอ่าน
ไม่ออกเขียนไม่ได้
ก่อนเข้าร่วมโครงการ
จำนวนนักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้หลังเข้าร่วมโครงการ
หมายเหตุ
1
ประถมศึกษาปีที่ 4/2
41
6
1
รวม
41
6
1




คิดเป็นร้อยละ
100
14.63
2.43







    จากตาราง 4 ผลการเปรียบเทียบจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาการอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ พบว่า จำนวนนักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก่อนเข้าร่วมโครงการมีจำนวน คนคิดเป็นร้อยละ 14.63 หลังเข้าร่วมโครงการ มีจำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 2.43  ตามลำดับ แสดงว่า มีหลังการเข้าร่วมโครงการมีนักเรียนที่อ่านออกเขียนได้ จำนวน 5 คนคิดเป็นร้อยละ 12.19

2. สัมฤทธิ์ผลของโครงการ
       นักเรียนอ่านออกเขียนได้มากกว่าร้อยละ 71
               

สรุปผล
นักเรียนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาการอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ ประสบผลสำเร็จมากจากการใช้แบบฝึกการอ่านและเขียน โดยนักเรียนสามารถอ่านออกเขียนได้มากขึ้น เกินกว่าร้อยละ 71 ยังเหลือนักเรียนที่ยังต้องพัฒนาการอ่านออกเขียนไม่ได้อีกจำนวน 1 คน ร้อยละ 2.43  ซึ่งจะดำเนินการพัฒนา ให้นักเรียนได้อ่านออกเขียนได้ครบร้อยละ100 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557

สะท้อนผล
 นักเรียนยังจำ ก – ฮ และสระ ไม่ได้ ทำให้เรียนรู้ได้ช้า
 นักเรียนแยกไตรยางศ์ หรืออักษร 3 หมู่ยังไม่ได้
 มีเวลาสอนน้อย
 เมื่อนักเรียนอ่านสะกดคำ มักจะออกเสียงตัวสะกดผิด
 เด็กมีสมาธิสั้น
 เด็กพิเศษ

ข้อเสนอแนะ
ควรปรับปรุงรูปแบบของแบบฝึกหัด เป็นรูปเล่มที่มีความคงทนถาวร



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น