ครูปรัสรา
โชปัญญา รายงาน
1. ชื่อเรื่อง ผลการพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้
โดยใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนบำรุงวิทยา อำเภอลำปลายมาศ
จังหวัดบุรีรัมย์
2. ผู้วิจัย นางสาวปรัสรา โชปัญญา
3.สภาพการปฏิบัติงานและปัญหาการวิจัย
การดำเนินการโครงการพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้
ปีการศึกษา 2557
จัดทำขึ้นเพื่อให้โรงเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ของโรงเรียนบำรุงวิทยา
อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์
ปีการศึกษา 2557
โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะขจัดปัญหานักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกโดยเฉพาะนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่
3
จะต้องอ่านหนังสือออกและเขียนได้ 100 % ภายในเดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช
2558
จากการสำรวจผลการเรียนของนักเรียนที่ผ่านมา
พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ ซึ่งน่าจะมีสาเหตุหนึ่งมาจากการอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ของนักเรียนโรงเรียนจึงได้ทำการสำรวจคัดกรองนักเรียนที่อ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้
ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- 6 สำหรับระดับชั้นประถมศึกษาปีที่
3/3ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 พบว่า
จำนวนนักเรียน 42 คน มีปัญหาอ่านไม่ออก จำนวน 11 คนคิดเป็นร้อยละ 26.19 จากปัญหาและสาเหตุที่กล่าวโรงเรียนจึงได้จัดทำโครงการพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ขึ้น
โดยใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา บุรีรัมย์ เขต 1
4.คำถามการวิจัย
การใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนส่งผลต่อการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนหรือไม่
อย่างไร
5.วัตถุประสงค์
เพื่อศึกษาผลการใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนที่มีต่อการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่
3/3ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557
6.ประโยชน์ที่จะได้รับ
1) นักเรียนอ่านได้ร้อยละ
80 ขึ้นไป
2) ครูได้แบบฝึกการอ่านและการเขียนที่มีประสิทธิภาพ
7.วิธีดำเนินการวิจัย
การวางแผน
1) เป้าหมาย ทดลองใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนเป็นเวลา 1 ภาคเรียน
2) กลุ่มเป้าหมาย
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/3โรงเรียนบำรุงวิทยา จำนวน 11 คน
3) กิจกรรม/การปฏิบัติ
การจัดหาสื่อ/นวัตกรรม มาใช้พัฒนานักเรียนแต่ละกลุ่มที่คัดแยกตามระดับสภาพปัญหาการอ่านของนักเรียนนั้น
โรงเรียนบำรุงวิทยาเปิดโอกาสครูและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถผลิตสื่อ/นวัตกรรมมาใช้พัฒนานักเรียนแต่ละกลุ่มได้อย่างหลากหลาย และได้จัดทำสื่อ/นวัตกรรมพัฒนานักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ไว้สำหรับครูที่ไม่ได้จัดทำสื่อ/นวัตกรรมดังกล่าว
ก็สามารถนำไปใช้สอนหรือพัฒนานักเรียนกลุ่มเป้าหมายของโรงเรียนได้
โรงเรียนบำรุงวิทยาได้จัดทำสื่อ/นวัตกรรมสำหรับพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้
ตามระดับสภาพปัญหาการอ่านของนักเรียนโดยยึดหลักการสอนจากง่ายไปหายาก 5 ขั้นตอนคือ
ขั้นตอนที่ 1 อ่านเขียนพยัญชนะและสระให้ถูก
ขั้นตอนที่ 2 นำพยัญชนะและสระมาผูกให้เป็นคำ
ขั้นตอนที่ 3 สอนการสะกดคำและแจกลูก
ขั้นตอนที่ 4 สอนการผันเสียงให้ถูกตามวรรณยุกต์
ขั้นตอนที่ 5 เรียนให้สนุกด้วยคำยากช่วยเสริม
จากกระบวนการเรียนรู้ดังกล่าว ได้นำมาจัดทำเป็นชุดการสอน
สำหรับใช้สอนนักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ 3
ชุด คือ
1. ชุดแบบฝึกการอ่านและสะกดคำพื้นฐาน ประกอบด้วย
แบบฝึกการอ่านและเขียนสะกดคำพื้นฐาน
แบบฝึกหัดการอ่านและเขียนสะกดคำพื้นฐาน
และแผนการสอนโดยใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนสะกดคำพื้นฐาน มีขั้นตอนการสอน ดังนี้
ขั้นที่
1 ทบทวนการอ่านพยัญชนะ
สระ การแบ่งพยัญชนะไทยออกเป็น 3 หมู่ คือ
อักษรกลาง อักษรสูง และอักษรต่ำ
เพื่อให้นักเรียนจดจำให้ได้ก่อนนำไปสู่การสอนอ่านประสมคำ การอ่านสะกดคำ และการผันวรรณยุกต์
ขั้นที่ 2 สอนให้นักเรียนรู้จักอ่านประสมคำ
ระหว่างพยัญชนะไทย 44 ตัว และสระไทย 32 เสียง
ขั้นที่ 3 สอนให้นักเรียนอ่านสะกดคำพื้นฐาน
ที่สะกดคำตรงตามมาตราตัวสะกดของไทย คือ แม่กก แม่กง แม่กด แม่กบ แม่กน แม่กม แม่เกย และ แม่เกอว
2. ชุดแบบฝึกการอ่านและผันวรรณยุกต์ ประกอบด้วย
แบบฝึกการอ่านและผันวรรณยุกต์อักษร
กลาง แบบฝึกการอ่านและผันวรรณยุกต์อักษรสูง
และแบบฝึกการอ่านและผันวรรณยุกต์อักษรต่ำ
3. ชุดแบบฝึกการอ่านและเขียนคำยาก ประกอบด้วย การอ่านและเขียนคำที่สะกดไม่ตรงตามตัวสะกด การอ่านและเขียนคำที่ไม่ประวิสรรชนีย์ การอ่านและเขียนคำที่มีตัวการันต์
การอ่านและเขียนคำที่มีอักษรนำ การอ่านและเขียนคำควบกล้ำ ฯลฯ
การปฏิบัติ ลงมือสอนตามแนวทางการพัฒนาที่กำหนดไว้ในเดือนมิถุนายน
ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2557
สังเกตการสอน
1.เครื่องมือวิจัย ได้แก่
1.1แบบสอบถามคุณภาพการปฏิบัติงานโครงการนักเรียนอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้
1.2แบบทดสอบ สำหรับคัดแยกนักเรียนออกเป็นกลุ่มตามระดับสภาพปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้
1.3 แบบฝึกหัดการอ่านและสะกดคำพื้นฐานแบบฝึกหัดการอ่านและผันวรรณยุกต์
แบบฝึกหัดการอ่านและเขียนคำยาก
2.การรวบรวมข้อมูล
รวบรวมข้อมูลหลังจากมีการสอนเรียบร้อยแล้ว
3.การวิเคราะห์ข้อมูล
3.1 แบบสอบถาม
วิเคราะห์โดยหาค่าร้อยละ
3.2 แบบทดสอบ
วิเคราะห์โดยหาค่าร้อยละ
3.3 แบบฝึกหัด
วิเคราะห์โดยหาค่าร้อยละ
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
1.ข้อมูลนักเรียนอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ก่อนเข้าร่วมโครงการ
ตาราง 1 แสดงข้อมูลนักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก่อนเข้าร่วมโครงการ
สรุปข้อมูลนักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก่อนเข้าโครงการ
|
|||||
ที่
|
ชั้น
ชั้น
|
จำนวนนักเรียนทั้งหมด
|
จำนวนนักเรียนที่อ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้
|
รวมจำนวนนักเรียนที่อ่านไม่ออก
|
หมายเหตุ
|
(คน)
|
(คน)
|
||||
1.
|
ป.3/3
|
42
|
11
|
11
|
|
รวม
|
42
|
11
|
11
|
|
|
ร้อยละ
|
100
|
26.19
|
26.19
|
|
จากตาราง 1 แสดงจำนวนนักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก่อนเข้าโครงการพบว่า
นักเรียน จำนวน 42 คน อ่านไม่ออกจำนวน 11 คน ร้อยละ 26.19
ตาราง 2 คุณภาพการปฏิบัติงานโครงการพัฒนานักเรียนอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้
ครั้งที่ 1
ชั้น
|
จำนวนนักเรียน
|
ระดับความสำเร็จการเรียนการสอน
ครั้งที่ 1
|
หมายเหตุ
|
|||
ไม่ประสบผลสำเร็จ
|
ประสบผลสำเร็จน้อย
|
ประสบผลสำเร็จ
ปานกลาง
|
ประสบผลสำเร็จมาก
|
|||
ป. 3/3
|
42
|
3
|
2
|
6
|
-
|
|
รวม
|
42
|
3
|
2
|
6
|
-
|
|
ร้อยละ
|
100
|
7.14
|
4.77
|
14.28
|
-
|
จากตาราง 2 คุณภาพการปฏิบัติงานโครงการพัฒนานักเรียนอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้
ครั้งที่ 1 พบว่า นักเรียนระดับชั้น ป.3/3 จำนวนทั้งหมด 42 คน เมื่อเข้าร่วมโครงการครั้งที่ 1
นักเรียนไม่ประสบผลสำเร็จ
จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 7.14 ประสบผลสำเร็จน้อย
จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 4.77 ประสบผลสำเร็จปานกลาง จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 14.28
ตาราง 3 คุณภาพการปฏิบัติงานโครงการพัฒนานักเรียนอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้
ครั้งที่ 2
ชั้น
|
จำนวนนักเรียน
|
ระดับความสำเร็จการเรียนการสอน
ครั้งที่ 2
|
หมายเหตุ
|
|||
ไม่ประสบผลสำเร็จ
|
ประสบผลสำเร็จน้อย
|
ประสบผลสำเร็จปานกลาง
|
ประสบผลสำเร็จมาก
|
|||
ป. 3/3
|
42
|
-
|
-
|
3
|
8
|
|
รวม
|
42
|
-
|
-
|
3
|
8
|
|
ร้อยละ
|
100
|
-
|
-
|
7.14
|
19.05
|
จากตาราง 3 คุณภาพการปฏิบัติงานโครงการพัฒนานักเรียนอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้
ครั้งที่ 2 พบว่า นักเรียนระดับชั้น ป.3/3 จำนวนทั้งหมด 42
คน เมื่อเข้าร่วมโครงการครั้งที่ 2
นักเรียนที่อ่านประสบผลสำเร็จปานกลาง จำนวน 3 คนคิดเป็นร้อยละ 7.14 ประสบผลสำเร็จมาก จำนวน 8
คน คิดเป็นร้อยละ 19.05
ตาราง 4 แสดงข้อมูลเปรียบเทียบนักเรียนที่อ่านไม่ออกก่อนเข้าร่วมโครงการและหลังเข้าร่วมโครงการ
เปรียบเทียบข้อมูลนักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก่อนเข้าร่วมโครงการและหลังเข้าโครงการ
|
|||||
ชั้น
|
จำนวนนักเรียน
|
จำนวนนักเรียนอ่านไม่ออกก่อนเข้าร่วมโครงการ
|
จำนวนนักเรียนอ่านไม่ออกหลังเข้าร่วมโครงการ
|
ผลการพัฒนาจำนวนนักเรียนอ่านออก
|
หมายเหตุ
|
ป 3/3
|
42
|
11
|
3
|
8
|
|
ร้อยละ
|
100
|
26.19
|
7.14
|
19.05
|
|
จากตาราง 4 เปรียบเทียบจำนวนนักเรียนที่อ่านไม่ออกก่อนเข้าร่วมโครงการและหลังเข้าร่วมโครงการ
พบว่า นักเรียนจำนวน 42 คน
จำนวนนักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก่อนเข้าโครงการมีจำนวน 11 คน
คิดเป็นร้อยละ 26.19 หลังการเข้าร่วมโครงการมีนักเรียนอ่านไม่ออก
จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 7.14 แสดงว่า
มีนักเรียนที่อ่านออกเขียนได้เพิ่มขึ้น 8 คน
คิดเป็นร้อยละ 19.05
2. สัมฤทธิ์ผลของโครงการ
จำนวนนักเรียน 42
คน มีนักเรียนอ่านออกและเขียนได้จำนวน 39 คน
คิดเป็นร้อยละ 92.86
สรุปผล
นักเรียนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาการอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ประสบผลสำเร็จมากจากการใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนโดยนักเรียนสามารถอ่านออกเขียนได้มากขึ้น
คิดเป็นร้อยละ 92.86
ยังเหลือนักเรียนที่ยังต้องพัฒนาการอ่านออกเขียนไม่ได้อีกจำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 7.14 ซึ่งจะดำเนินการพัฒนาให้นักเรียนได้อ่านออกเขียนได้ครบร้อยละ100
ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
สะท้อนผล
1. นักเรียนยังจำ ก – ฮ และสระ ไม่ได้
ทำให้เรียนรู้ได้ช้า
2. นักเรียนแยกไตรยางศ์
หรืออักษร 3
หมู่ยังไม่ได้
3. มีเวลาสอนน้อย
4. เมื่อนักเรียนอ่านสะกดคำ
มักจะออกเสียงตัวสะกดผิด
5. เด็กมีสมาธิสั้น
6. เด็กพิเศษ
ข้อเสนอแนะ
ควรปรับปรุงรูปแบบของแบบฝึกหัด เป็นรูปเล่มที่มีความคงทนถาวร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น