วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

รายงานการวิจัยชั้นเรียน ผลการพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ โดยใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนบำรุงวิทยา อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์




                                                                                                                          
                                                                                         ครูเขมจิรา  จำนงค์  รายงาน

                1. ชื่อเรื่อง ผลการพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ โดยใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนบำรุงวิทยา อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์

                2. ผู้วิจัย นางเขมจิรา จำนงค์

                3.สภาพการปฏิบัติงานและปัญหาการวิจัย
                การดำเนินการโครงการพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ ปีการศึกษา 2557 จัดทำขึ้นเพื่อให้โรงเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ของโรงเรียนบำรุงวิทยา อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์  ปีการศึกษา 2557  โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะขจัดปัญหานักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกโดยเฉพาะนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จะต้องอ่านหนังสือออกและเขียนได้  100 ภายในเดือนกุมภาพันธ์  พุทธศักราช 2558
             จากการสำรวจผลการเรียนของนักเรียนที่ผ่านมา พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ ซึ่งน่าจะมีสาเหตุหนึ่งมาจากการอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ของนักเรียนโรงเรียนจึงได้ทำการสำรวจคัดกรองนักเรียนที่อ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 สำหรับระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/4 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 พบว่า จำนวนนักเรียน  40 คน มีปัญหาอ่านไม่ออก จำนวน 13  คนคิดเป็นร้อยละ 32.5  จากปัญหาและสาเหตุที่กล่าวโรงเรียนจึงได้จัดทำโครงการพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ขึ้น โดยใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา บุรีรัมย์ เขต 1

4. คำถามการวิจัย
                  การใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนส่งผลต่อการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนหรือไม่ อย่างไร

5. วัตถุประสงค์
                 เพื่อศึกษาผลการใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนที่มีต่อการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนระดับชั้นป.3/2ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557

                6. ประโยชน์ที่จะได้รับ
                                1) นักเรียนอ่านได้ร้อยละ 80 ขึ้นไป
                                2) ครูได้แบบฝึกการอ่านและการเขียนที่มีประสิทธิภาพ


                7. วิธีดำเนินการวิจัย
การวางแผน
1) เป้าหมาย ทดลองใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนเป็นเวลา 1 ภาคเรียน
2) กลุ่มเป้าหมาย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/4 โรงเรียนบำรุงวิทยา จำนวน 13 คน
3) กิจกรรม/การปฏิบัติ



              การจัดหาสื่อ  นวัตกรรม มาใช้พัฒนานักเรียนแต่ละกลุ่มที่คัดแยกตามระดับสภาพปัญหาการอ่านของนักเรียนนั้น  โรงเรียนบำรุงวิทยาเปิดโอกาสครูและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถผลิตสื่อ/นวัตกรรมมาใช้พัฒนานักเรียนแต่ละกลุ่มได้อย่างหลากหลาย  และได้จัดทำสื่อ/นวัตกรรมพัฒนานักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ไว้สำหรับครูที่ไม่ได้จัดทำสื่อ/นวัตกรรมดังกล่าว ก็สามารถนำไปใช้สอนหรือพัฒนานักเรียนกลุ่มเป้าหมายของโรงเรียนได้ 
                โรงเรียนบำรุงวิทยาได้จัดทำสื่อ / นวัตกรรมสำหรับพัฒนานักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้  ตามระดับสภาพปัญหาการอ่านของนักเรียนโดยยึดหลักการสอนจากง่ายไปหายาก  5 ขั้นตอนคือ
                                ขั้นตอนที่ 1 อ่านเขียนพยัญชนะและสระให้ถูก
                                ขั้นตอนที่  2 นำพยัญชนะและสระมาผูกให้เป็นคำ
                                ขั้นตอนที่  3 สอนการสะกดคำและแจกลูก
                                ขั้นตอนที่  4 สอนการผันเสียงให้ถูกตามวรรณยุกต์
                                ขั้นตอนที่  5 เรียนให้สนุกด้วยคำยากช่วยเสริม
จากกระบวนการเรียนรู้ดังกล่าว  ได้นำมาจัดทำเป็นชุดการสอน สำหรับใช้สอนนักเรียนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้  3 ชุด คือ
1. ชุดแบบฝึกการอ่านและสะกดคำพื้นฐาน  ประกอบด้วย แบบฝึกการอ่านและเขียนสะกดคำพื้นฐาน
แบบฝึกหัดการอ่านและเขียนสะกดคำพื้นฐาน  และแผนการสอนโดยใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนสะกดคำพื้นฐาน มีขั้นตอนการสอน ดังนี้
                            ขั้นที่ 1 ทบทวนการอ่านพยัญชนะ สระ การแบ่งพยัญชนะไทยออกเป็น 3 หมู่ คือ อักษรกลาง  อักษรสูง และอักษรต่ำ เพื่อให้นักเรียนจดจำให้ได้ก่อนนำไปสู่การสอนอ่านประสมคำ  การอ่านสะกดคำ และการผันวรรณยุกต์
                             ขั้นที่ 2 สอนให้นักเรียนรู้จักอ่านประสมคำ ระหว่างพยัญชนะไทย  44 ตัว และสระไทย 32 เสียง
                             ขั้นที่ 3 สอนให้นักเรียนอ่านสะกดคำพื้นฐาน ที่สะกดคำตรงตามมาตราตัวสะกดของไทย คือ แม่กก แม่กง แม่กด แม่กบ  แม่กน แม่กม แม่เกย และ แม่เกอว
2. ชุดแบบฝึกการอ่านและผันวรรณยุกต์  ประกอบด้วย แบบฝึกการอ่านและผันวรรณยุกต์อักษรกลาง  แบบ
ฝึกการอ่านและผันวรรณยุกต์อักษรสูง  และแบบฝึกการอ่านและผันวรรณยุกต์อักษรต่ำ
3.  ชุดแบบฝึกการอ่านและเขียนคำยาก ประกอบด้วย การอ่านและเขียนคำที่สะกดไม่ตรงตามตัวสะกด การ
อ่านและเขียนคำที่ไม่ประวิสรรชนีย์ การอ่านและเขียนคำที่มีตัวการันต์ การอ่านและเขียนคำที่มีอักษรนำ การอ่านและเขียนคำควบกล้ำ  ฯลฯ
                                                                                                       
การปฏิบัติ ลงมือสอนตามแนวทางการพัฒนาที่กำหนดไว้ในเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2557


สังเกตการสอน
1. เครื่องมือวิจัย ได้แก่
1.1แบบสอบถามคุณภาพการปฏิบัติงานโครงการนักเรียนอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้                                                
1.2 แบบทดสอบสำหรับคัดแยกนักเรียนออกเป็นกลุ่มตามระดับสภาพปัญหาการอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้                                                    
1.3 แบบฝึกหัดการอ่านและสะกดคำพื้นฐานแบบฝึกหัดการอ่านและผันวรรณยุกต์ แบบฝึกหัดการอ่านและเขียนคำยาก
           2. การรวบรวมข้อมูล
                  รวบรวมข้อมูลหลังจากมีการสอนเรียบร้อยแล้ว
             3. การวิเคราะห์ข้อมูล
    3.1 แบบสอบถาม วิเคราะห์โดยหาค่าร้อยละ
    3.2 แบบทดสอบ วิเคราะห์โดยหาค่าร้อยละ
    3.3 แบบฝึกหัด วิเคราะห์โดยหาค่าร้อยละ

ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
1.  ข้อมูลนักเรียนอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ก่อนเข้าร่วมโครงการ

 ตาราง 1 แสดงข้อมูลนักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก่อนเข้าร่วมโครงการ


สรุปข้อมูลนักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่ได้ก่อนเข้าโครงการ


ที่

ชั้น             
                    ชั้น
จำนวนนักเรียนทั้งหมด
จำนวนนักเรียนที่อ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้

รวมจำนวนนักเรียนที่อ่านไม่ออก

หมายเหตุ
(คน)
(คน)
1.
ป.2/4
40
13
13

รวม
40
13
13

ร้อยละ
100
32.50
32.50


จากตาราง 1 แสดงจำนวนนักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก่อนเข้าโครงการพบว่า นักเรียน จำนวน 40 คน อ่านไม่ออกจำนวน 13 คน ร้อยละ 32.50



ตาราง 2 คุณภาพการปฏิบัติงานโครงการพัฒนานักเรียนอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ ครั้งที่ 1


ชั้น

จำนวนนักเรียน
ระดับความสำเร็จการเรียนการสอน ครั้งที่ 1

หมายเหตุ
ไม่ประสบผลสำเร็จ
ประสบผลสำเร็จน้อย
ประสบผลสำเร็จปานกลาง
ประสบผลสำเร็จมาก
ป. 2/4
40
3
3
7
-
รวม
40
3
3
7
-
ร้อยละ
100
7.5
7.5
17.5


จากตาราง 2 คุณภาพการปฏิบัติงานโครงการพัฒนานักเรียนอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ ครั้งที่ 1
พบว่า นักเรียนระดับชั้น ป.2/4 จำนวนทั้งหมด 40 คน  เมื่อเข้าร่วมโครงการครั้งที่ 1 นักเรียนไม่ประสบผลสำเร็จ จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 7.5 ประสบผลสำเร็จน้อย จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 7.5 และประสบผลสำเร็จปานกลาง 7 คน 
คิดเป็นร้อยละ 17.5

ตาราง 3 คุณภาพการปฏิบัติงานโครงการพัฒนานักเรียนอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้ ครั้งที่ 2


ชั้น

จำนวนนักเรียน
ระดับความสำเร็จการเรียนการสอน ครั้งที่ 2

หมายเหตุ
ไม่ประสบผลสำเร็จ
ประสบผลสำเร็จน้อย
ประสบผลสำเร็จปานกลาง
ประสบผลสำเร็จมาก
ป. 2/4
40
3
4
4
2
รวม
40
3
4
4
2
ร้อยละ
100
7.50
10.00
10.00
5.00

จากตาราง 3 คุณภาพการปฏิบัติงานโครงการพัฒนานักเรียนอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ ครั้งที่ 2 พบว่า นักเรียนระดับชั้น ป.2/4 จำนวนทั้งหมด 13 คน  เมื่อเข้าร่วมโครงการครั้งที่ 2 นักเรียนที่อ่านไม่ประสบผลสำเร็จ 3 คนคิดเป็น  ร้อยละ 7.50 นักเรียนที่ประสบผลสำเร็จน้อย 4 คิดเป็นร้อยละ 10.00  ประสบผลสำเร็จปานกลาง จำนวน 4 คนคิดเป็น  ร้อยละ10.00 และประสบผลสำเร็จมาก 2 คน คิดเป็นร้อยละ 5.00


       
         ตาราง 4 แสดงข้อมูลเปรียบเทียบนักเรียนที่อ่านไม่ออกก่อนเข้าร่วมโครงการและหลังเข้าร่วมโครงการ

เปรียบเทียบข้อมูลนักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก่อนเข้าร่วมโครงการและหลังเข้าโครงการ

ชั้น
จำนวนนักเรียน
จำนวนนักเรียนอ่านไม่ออกก่อนเข้าร่วมโครงการ
จำนวนนักเรียนอ่านไม่ออกหลังเข้าร่วมโครงการ
ผลการพัฒนาจำนวนนักเรียนอ่านออก
หมายเหตุ
ป.2/4
40
13
3
10

ร้อยละ
100
32.50
7.50
25.00


จากตาราง 4 เปรียบเทียบจำนวนนักเรียนที่อ่านไม่ออกก่อนเข้าร่วมโครงการและหลังเข้าร่วมโครงการ พบว่า นักเรียนจำนวน 40 คน จำนวนนักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก่อนเข้าโครงการมีจำนวน 13 คนคิดเป็นร้อยละ 32.50 หลังการเข้าร่วมโครงการ จำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 25.00 แสดงว่า มีนักเรียนที่อ่านออกเขียนได้เพิ่มขึ้น
10 คน คิดเป็นร้อยละ 25.00

2.สัมฤทธิ์ผลของโครงการ
จำนวนนักเรียน 40 คน มีนักเรียนอ่านออกและเขียนได้จำนวน 37 คน คิดเป็น ร้อยละ 92.50

สรุปผล
นักเรียนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาการอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ประสบผลสำเร็จมากจากการใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนโดยนักเรียนสามารถอ่านออกเขียนได้มากขึ้น มีจำนวน 37 คน คิดเป็นร้อยละ 92.50 ยังเหลือนักเรียนที่ยังต้องพัฒนาการอ่านออกเขียนไม่ได้อีกจำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 7.50  ซึ่งจะดำเนินการพัฒนาให้นักเรียนได้อ่านออกเขียนได้ครบร้อยละ100 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557

สะท้อนผล
1. นักเรียนยังจำ ก ฮ และสระ ไม่ได้ ทำให้เรียนรู้ได้ช้า
2. นักเรียนแยกไตรยางศ์ หรืออักษร 3 หมู่ยังไม่ได้
3. มีเวลาสอนน้อย
4.  เมื่อนักเรียนอ่านสะกดคำ มักจะออกเสียงตัวสะกดผิด
5. เด็กมีสมาธิสั้น
6.  เด็กพิเศษ

ข้อเสนอแนะ
ควรปรับปรุงรูปแบบของแบบฝึกหัด เป็นรูปเล่มที่มีความคงทนถาวร





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น